กล้าใช้ภาษาอังกฤษไปกับเราที่ Talklikethat สิครับ 🎉
Software Process Management Project วิดีโอประกอบการทำงานของระบบ https://youtu.be/gAYpRQKQkj8
- NodeJS & NPM
- Yarn
- Maven
- MySQL (แนะนำ MariaDB)
หลังจากที่ clone ตัวโปรเจคลงมาแล้ว ต่อไปจะเป็นการใส่ config ที่จำเป็นให้กับทั้งสองระบบคือ Site และ API ดังนี้
วิธีการพัฒนาโปรเจคทั้งสองในเครื่องแลปท็อปส่วนตัวของตัวเอง
ให้เปิด bash และเข้าไปที่ directory ของโปรเจค Site ดังคำสั่งนี้
cd ./api/src/main/resources
สร้างไฟล์ config.js ตามแบบของไฟล์ config.example.js โดยคำสั่งนี้ จากนั้นแก้ไขค่าข้างในไฟล์ด้วย text editor
cp site/config.example.js site/config.js
vi site/config.js
ต่อจากนั้นลง dependency ทั้งหมดด้วยคำสั่ง
yarn
ตอนนี้ระบบ Site พร้อมจะทำการใช้งานแล้ว สามารถพัฒนาต่อด้วยคำสั่งดังนี้
yarn dev
ให้เปิด bash และเข้าไปที่ directory ของโปรเจค โดยใช้คำสั่ง
cd ./api/src/main/resources
และใช้คำสั่ง
cp application.example.properties application.properties
จากนั้นใช้ Text Editor เข้าไปแก้ไขไฟล์ application.properties ที่สร้างมาเมื่อขึ้นตอนก่อนหน้า
spring.jpa.hibernate.ddl-auto=none
spring.datasource.url= // URI ของ DB ซึ่งต้องประกอบไปด้วย jdbc:mysql://DB_URL:PORT/DB_NAME
spring.datasource.username= // Username ของ Database
spring.datasource.password= // Password ของ Database
ในขั้นตอนนี้จะไม่พูดถึงการเตรียม Virtual Machine
ก่อนอื่นต้องมี Node.js (แนะนำ version. 8.9.4), yarn, pm2 ก่อน
เริ่มจาก Clone โปรเจคจาก GitHub
git clone https://github.com/firstziiz/talklikethat-app.git
cd talklikethat-app
สร้างไฟล์ config.js ตามแบบของไฟล์ config.example.js โดยคำสั่งนี้ จากนั้นแก้ไขค่าข้างในไฟล์ด้วย text editor
cp site/config.example.js site/config.js
vi site/config.js
ต่อจากนั้นลง dependency ทั้งหมดด้วยคำสั่ง
yarn
ตอนนี้ระบบ Site พร้อมใช้งานแล้ว จะต้องทำการรันด้วยคำสั่งของ pm2 ดังนี้
pm2 start yarn --name TALKLIKETHAT_SITE -- start-prod
จากนั้นให้เข้าใช้งานที่ http://IP_ADDRESS:3000
ถือเป็นอันเสร็จอิ้น
ในขั้นตอนนี้จะไม่พูดถึงการเตรียม Virtual Machine
เริ่มจาก Clone โปรเจคจาก GitHub
git clone https://github.com/firstziiz/talklikethat-app.git
cd talklikethat-app
เราก็จะได้ Project ที่เก็บไว้ใน GiHub branch develop แล้ว
ต่อไปในส่วนของ set .env
cp api/src/main/resources/application.examle.properties api/src/main/resources/application.properties
vi api/src/main/resources/application.properties
คำสั่ง vi เป็น text editor กด i เพื่อเข้าสู่โหมด Insert
และแก้ไขข้อความตัวพิมพ์ใหญ่
spring.jpa.hibernate.ddl-auto=none
spring.datasource.url=jdbc:mysql://DATABASE_ADDRESS:PORT/DATABASE_TABLE
spring.datasource.username=USERNAME
spring.datasource.password=PASSWORD
กด Esc เพื่อออกจากโหมด Insert และ :wq เพื่อ save และออกจากคำสั่ง vi
หลังจากนั้นก็มาถึงส่วนของ build และ run .jar
mvn package && java -jar target/talklikethat-spring-boot-0.1.0.jar
เสร็จแล้วเราก็จะสามารถดู API ทำงานบน VM โดยเข้าไปใน Web Browser ด้วย
http://IP_ADDRESS:8080/hello/
จะเห็นได้ว่า API สามารถไปดึงข้อมูลจาก DB ออกมาได้
Site: site.talklikethat.ks.in.th
VideoCall: videocall.talklikethat.ks.in.th
API: api.talklikethat.ks.in.th
DB: 54.255.195.240
- 58130500080: สุธีรา นิธิบุญหิรัญ
- 58130500105: กิตติธัช พัศระ
- 58130500063: รัญญาภรณ์ ศุภรัตน์รวีกุล
- 58130500099: มนัสนันท์ ไพรวัฒนานุพันธ์
- 58130500055: พัชรีภรณ์ ศรีเจริญ
- 58130500009: คณิศร สุธรรม